ปัญหาน้ำค้างบนผิวรถ กับการเคลือบแก้ว

หมอกและน้ำค้าง เป็นสิ่งที่หลายๆ ท่านชอบ เนื่องจากมันเป็นสัญลักษณ์ว่าได้เข้าสู่ช่วงฤดูหนาวแล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับประเทศที่ได้ชื่อว่าเมืองร้อนอย่างประเทศไทยของเรา เวลาเดินทางไปไหนในช่วงเช้า เห็นหมอกขาวพร่างพรมลงมามันเป็นบรรยากาศที่สวยงาม และให้ความรู้สึกเย็นสบาย เป็นช่วงเวลาที่หลายท่านนิยมเดินทางท่องเที่ยว จนเรียกว่าเป็นช่วง High Season ในการท่องเที่ยวของปี แต่อย่างไรก็ดี มันไม่ได้เป็นเรื่องดีงามไปเสียทั้งหมด… โดยเฉพาะกับรถ เหตุเพราะหมอกแสนสวยและน้ำค้างที่พร่างพราวลงมานั้น มันสามารถก่อปัญหาให้ผิวสีของรถได้ในระดับน่ากังวลเลยทีเดียว… โดยเฉพาะในรถที่ยังไม่ได้ทำการ เคลือบแก้ว ไม่มีชั้นฟิล์มจาก น้ำยาเคลือบแก้ว ปกป้องผิวสีแท้ของรถเอาไว้…   ปัญหาผิวสีรถที่เกิดจากน้ำค้าง ในรถที่ยังไม่ได้เคลือบแก้ว   ปัญหาที่เกิดได้กับรถและสีรถที่มาจากน้ำค้างในยามเช้าและค่ำคืนนั้นมีอยู่ด้วยหลายประการ อาทิเช่น ทำให้สีรถซีดและหมองเร็ว เรื่องนี้เกิดจากสภาพของน้ำค้างที่มีสภาพเป็นกรด เนื่องจากอากาศมีมลพิษ เมื่ออากาศเกิดการควบแน่นกลายเป็นหยดน้ำ ก็จะนำเอาสภาพมลพิษนั้นตกลงมากับน้ำค้างด้วย ซึ่งเมื่อน้ำค้างลงไปเกาะจับที่ผิวรถ แน่นอนว่าก่อให้เกิดความเสียหายกับสีรถได้อย่างแน่นอน ทำให้เกิดคราบสนิมน้ำ แน่นอนว่าการที่เราปล่อยให้น้ำเกาะติดที่ผิวรถแห้งไปเอง สิ่งที่ตามมามักเป็นเรื่องปัญหาคราบฝ้าสีขาว ที่เราเรียกกันว่าสนิมน้ำ ซึ่งเป็นคราบที่ทำความสะอาดยากมาก เว้นแต่เป็นรถที่มีชั้นฟิล์มที่เกิดจาก น้ำยาเคลือบแก้ว ปกคลุมอยู่ คราบสนิมน้ำเช็ดล้างธรรมดาไม่ค่อยออก ดังนั้นการปล่อยให้เกิดรอยนี้เป็นการสร้างความยุ่งยากให้กับคนที่ต้องการให้รถมีความเงางามมากเลยทีเดียว ทำให้ความเสียหายจากแสงแดดรุนแรงยิ่งขึ้น น้ำค้างเมื่อจับเกาะที่ผิวรถ มันก็จะทำหน้าที่เหมือนเป็นเลนส์นูน เมื่อแสงแดดส่งลงมากระทบก็จะทำหน้าที่รวมความร้อนทำให้สีรถได้รับความเสียหายจากแสงแดดได้มากกว่าเดิม โดยปกติแสงแดดทำให้สีรถซีดและเสียหายง่ายอยู่แล้ว ยิ่งมาเสริมแรงด้วยน้ำค้าง ยิ่งเสียหายเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ฝุ่นผงสิ่งสกปรกเกาะติดสีรถได้แน่นและมากยิ่งขึ้น นี่เป็นปัญหาที่ทำให้รถของเราดูไม่สวยงาม … Continue reading ปัญหาน้ำค้างบนผิวรถ กับการเคลือบแก้ว