ติดฟิล์มกันรอยรถยนต์แพงไหม

ฟิล์มกันรอยรถยนต์ เป็นหนึ่งในสิ่งที่สามารถเรียกได้ว่าเป็น นวัตกรรม ในการปกป้องพื้นผิวของรถยนต์ก็ว่าได้ เพราะมันมีคณสมบัติในการปกป้องผิวสีแท้ของรถได้หลายประการ ดังนั้นไม่แปลกที่มีผู้สนใจจำนวนไม่น้อย อย่างไรก็ดีมีหลายท่านที่แม้จะสนใจแต่ก็ยังลังเลอยู่ เพราะติดที่คำถามว่า “ติดฟิล์มกันรอยรถยนต์แพงไหม...” ราคาของ ฟิล์มกันรอยรถยนต์ เป็นคำถามที่น่าสนใจ และเราเชื่อว่ามีคนใช้งานรถจำนวนไม่น้อยที่อยากได้คำตอบในเรื่องนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ควรคิดให้รอบคอบจริงๆ การจับจ่ายใช้สอยในช่วงนี้เป็นเรื่องที่ควรพิจารณอย่างยิ่ง ต้องหาจุดความคุ้มค่าที่ลงตัวกับการดำเนินชีวิตให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม อาจจะมีหลายท่านที่เคยเห็น ราคาของ ฟิล์มกันรอยรถยนต์ ที่มีหลายระดับ บางท่านอาจจะคิดว่าสามารถเลือกเอาเจ้าที่เสนอราคาต่ำสุด เพื่อให้จ่ายน้อยๆ ก็น่าจะได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรื่องของราคาของตัว ฟิล์มกันรอยรถ มีปัจจัยหลายอย่างที่ไม่อาจมองข้าม เช่น ปัจจัยในส่วนวัสดุ ฟิล์มกันรอยรถยนต์ มีหลาย แตกต่างกันไปตามวัสดุที่นำใช้ผลิตชิ้นงาน หรือระดับความหนาของวัสดุแต่ละชั้น (ในฟิล์มกันรอยแต่ละยี่ห้ออาจจะมีการออกแบบชั้นของวัสดุที่เอามาซ้อนประกอบเป็นแผ่นฟิล์มที่แตกต่างกันไป) และเทคโนโลยีในการผลิตแผ่นฟิล์มใส ซึ่งแน่นอนว่ามีผลกับคุณภาพและคุณสมบัติในการใช้งาน ดังนั้นฟิล์มที่มีราคาถูกอาจจะไม่สามารถให้คุณสมบัติในการปกป้องได้ตามที่คาดหวัง ปัจจัยในส่วนบริการ ในการ ติดฟิล์มกันรอยรถ ไม่ใช่แค่การแกะฟิล์มออกมาและแปะติดลงไปก็จะสามารถใช้งานได้ ยังต้องมีการจัดการเตรียมพื้นผิวของรถให้พร้อมเสียก่ออีกรอบหนึ่ง ซึ่งในการเตรียมพื้นผิวนี้แต่ละที่ก็จะมีกรรมวิธีที่แตกต่างกัน บางเจ้าอาจจะแค่ทำความสะอาด แต่เจ้าที่ได้มาตรฐานก็จะมีการตรวจสอบและเคลียร์พื้นผิวด้วยการขัดจนผิวเนียนเรียบเสียก่อน ซึ่งแน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ได้ออกมาย่อมมีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของความสวยงามเรียบร้อยและประสิทธิภาพในการยึดเกาะ ซึ่งในการบริการส่วนนี้ก็ย่อมทำให้ราคาแตกต่างกัน ปัจจัยด้านขนาดของรถยนต์ที่เข้ารับบริการ ขนาดและรูปแบบของรถ เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ส่งผลโดยตรงกับราคา รถที่มีขนาดเล็กก็ย่อมมีราคาที่ถูกกว่ารถยนต์ขนาดใหญ่ (ในกรณีที่ใช้วัสดุและบริการแบบเดียวกัน) เนื่องจากใช้วัสดุและแรงงานในการทำน้อยกว่านั่นเอง … Continue reading ติดฟิล์มกันรอยรถยนต์แพงไหม

ฟิล์มกันรอยรถยนต์คืออะไร

ฟิล์มกันรอยรถยนต์คืออะไร

“ฟิล์มกันรอยรถยนต์คืออะไร” น่าจะเป็นอีกหนึ่งคำถามที่มีหลายๆ คนเกิดความสงสัย โดยเฉพาะคนที่รักรถ น่าจะให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะชื่อมันบอกออกมาทำนองว่า มีประสิทธิภาพในการป้องกันไม่ให้เกิดรอยบนรถได้ ก็ย่อมทำให้คนรักรถเกิดความสนใจ อย่างไรก็ดีมันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างใหม่อยู่บ้างในบ้านเราจึงยังไม่ชัดเจนนักว่ามันคืออะไร เราจะมาขยายความเพื่อขจัดข้อสงสัย เป็นข้อมูลให้ท่านที่สนใจเอาไว้ตัดสินใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ฟิล์มกันรอย ประเภทนี้ ฟิล์มกันรอย เป็นผลิตภัณฑ์ที่หลายๆ ท่านคุ้นชินชื่อกันอยู่แล้ว แต่เชื่อว่าส่วนมากนึกถึงวัสดุที่นำมาใช้เพื่อกันการเกิดรอยบนหน้าจอของโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่หากพูดถึง ฟิล์มกันรอยรถยนต์ บางท่านอาจจะยังไม่แน่ใจนักว่ามันคืออะไรกันแน่ และมันน่านำมาใช้งานกับรถยนต์ของเราหรือเปล่า บทความนี้เราจะพาท่านที่สนใจมาร่วมหาคำตอบไปด้วยกัน ลักษณะของ ฟิล์มกันรอยรถยนต์ ก่อนที่เราจะลงลึกกันในรายละเอียด ก่อนอื่นเรามาสำรวจดูรูปร่างลักษณะของเจ้า ฟิล์มกันรอยรถยนต์ กันก่อนดีกว่า เพื่อที่จะได้ทำความเข้าใจมันได้ชัดเจนไล่กันตั้งแต่รูปลักษณะภายนอกเข้าไป ซึ่งลักษณะของ ฟิล์มกันรอยรถยนต์ นั้นจะมีสภาพเป็นแผ่นฟิล์มใส โปร่งแสง มีความยืดหยุ่นสูง ไม่มีรอยแตก และไม่ขาดง่าย มีความหนาระดับหนึ่ง ซึ่งศัพท์ทางเทคนิคที่เรียกกันจะใช้การวัดระดับความหนาของ ฟิล์มกันรอยรถ เป็น “ไมครอน” หรือ บางครั้งก็เรียกว่า “มิลล์ฟิล์ม” ก็มี (1 มิลล์ฟิล์ม = 25.4 ไมครอน) สำหรับวัสดุที่นำมาผลิต อาจจะมีหลายแบบหลายสูตรตามแต่โรงงานที่ผลิตมา ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับวัสดุ ท่านที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากผู้ให้บริการ ติดฟิล์มกันรอยรถ … Continue reading ฟิล์มกันรอยรถยนต์คืออะไร

ฝนสลับแดดอันตรายต่อสีรถมาก ถ้ายังไม่ได้ทำเคลือบแก้ว

สภาพอากาศเมืองไทย นานวันเข้าชักเป็นเรื่องไม่แน่ไม่นอน บางวันมีสภาพอากาศครบสามฤดูในวันเดียวก็มี คือ ช่วงเช้าอากาศเย็นจนมีหมอก แต่สายถึงบ่ายแดดจัด ร้อนจนแสบผิว พอเย็น-ค่ำกลับมีฝนตกลงมา… สภาพอากาศแบบนี้ใครไม่แข็งแรงพอมีหวังป่วยไข้ไปตามๆ กัน เพราะไม่สามารถปรับตัวตามอากาศไหว… แต่นอกจากคนเราแล้ว เรื่องของสีรถเองก็น่ากังวลเช่นกัน โดยเฉพาะรถที่ยังไม่ได้ผ่านการทำ เคลือบแก้ว ไม่มีชั้นฟิล์มแข็งที่เกิดจาก น้ำยาเคลือบแก้ว ที่ผิวปกป้องสภาพสีผิวเอาไว้…   สิ่งที่เกิดขึ้นจากสภาพฝนสลับแดดในรถที่ยังไม่ได้เคลือบแก้ว   มีคราบสกปรกเกาะจับรถมากขึ้น เรื่องนี้เริ่มจากความชื้นที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะมาจากฝนหรือ น้ำค้าง ที่จะเสริมการยึดเกาะของสิ่งสกปรก ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นผง โคลน หรือ เขม่ามลภาวะในอากาศให้เข้ามาจับเกาะผิวรถได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะมีความชื้นเป็นตัวประสานและเพิ่มการยึดเกาะ รวมไปถึงโคลนและสิ่งสกปรกที่ต่างๆ ที่อยู่บนถนน สามารถกระเซ็นขึ้นมาทำให้รถเปรอะเปื้อนได้เพิ่มมากขึ้น และสิ่งเหล่านี้จะแห้งแข็งอย่างรวดเร็วเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น เมื่อมีแสงแดดตามมา แน่นอนว่ามันจะเกิดซ้ำๆ หากเจ้าของรถชะล่าใจไม่รีบทำความสะอาด คราบสกปรกเหล่านี้จะพอกพูนกลายเป็นคราบหนาขึ้นเรื่อยๆ ในสภาวะอากาศลักษณะนี้ เกิดคราบสกปรกที่ล้างออกได้ยากจำนวนมาก เรื่องนี้เกิดจากความชื้นอีกเช่นกัน เมื่อใดก็ตามที่เกิดหยดน้ำเกาะที่ผิวรถ และแห้งด้วยตัวมันเอง จะเกิดคราบขาวขุ่นๆ ที่เรารู้จักกันดีในชื่อ “สนิมน้ำ” และมันจะยิ่งเกิดเร็วมากขึ้นหากสภาวะอากาศแปรปรวน เพราะมีหยดน้ำสลับกับแดด และยังผนวกปัญหาหนักขึ้นด้วยฝุ่นผงคราบสกปรกต่างๆ ที่จับผิวรถมากยิ่งขึ้นในข้อ 1 สิ่งสกปรกบางส่วนจะละลายออกมาและเกาะติดที่ผิวสีของรถที่ไม่ผ่านการ เคลือบแก้ว ได้อย่างดาย … Continue reading ฝนสลับแดดอันตรายต่อสีรถมาก ถ้ายังไม่ได้ทำเคลือบแก้ว

ปัญหาน้ำค้างบนผิวรถ กับการเคลือบแก้ว

หมอกและน้ำค้าง เป็นสิ่งที่หลายๆ ท่านชอบ เนื่องจากมันเป็นสัญลักษณ์ว่าได้เข้าสู่ช่วงฤดูหนาวแล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับประเทศที่ได้ชื่อว่าเมืองร้อนอย่างประเทศไทยของเรา เวลาเดินทางไปไหนในช่วงเช้า เห็นหมอกขาวพร่างพรมลงมามันเป็นบรรยากาศที่สวยงาม และให้ความรู้สึกเย็นสบาย เป็นช่วงเวลาที่หลายท่านนิยมเดินทางท่องเที่ยว จนเรียกว่าเป็นช่วง High Season ในการท่องเที่ยวของปี แต่อย่างไรก็ดี มันไม่ได้เป็นเรื่องดีงามไปเสียทั้งหมด… โดยเฉพาะกับรถ เหตุเพราะหมอกแสนสวยและน้ำค้างที่พร่างพราวลงมานั้น มันสามารถก่อปัญหาให้ผิวสีของรถได้ในระดับน่ากังวลเลยทีเดียว… โดยเฉพาะในรถที่ยังไม่ได้ทำการ เคลือบแก้ว ไม่มีชั้นฟิล์มจาก น้ำยาเคลือบแก้ว ปกป้องผิวสีแท้ของรถเอาไว้…   ปัญหาผิวสีรถที่เกิดจากน้ำค้าง ในรถที่ยังไม่ได้เคลือบแก้ว   ปัญหาที่เกิดได้กับรถและสีรถที่มาจากน้ำค้างในยามเช้าและค่ำคืนนั้นมีอยู่ด้วยหลายประการ อาทิเช่น ทำให้สีรถซีดและหมองเร็ว เรื่องนี้เกิดจากสภาพของน้ำค้างที่มีสภาพเป็นกรด เนื่องจากอากาศมีมลพิษ เมื่ออากาศเกิดการควบแน่นกลายเป็นหยดน้ำ ก็จะนำเอาสภาพมลพิษนั้นตกลงมากับน้ำค้างด้วย ซึ่งเมื่อน้ำค้างลงไปเกาะจับที่ผิวรถ แน่นอนว่าก่อให้เกิดความเสียหายกับสีรถได้อย่างแน่นอน ทำให้เกิดคราบสนิมน้ำ แน่นอนว่าการที่เราปล่อยให้น้ำเกาะติดที่ผิวรถแห้งไปเอง สิ่งที่ตามมามักเป็นเรื่องปัญหาคราบฝ้าสีขาว ที่เราเรียกกันว่าสนิมน้ำ ซึ่งเป็นคราบที่ทำความสะอาดยากมาก เว้นแต่เป็นรถที่มีชั้นฟิล์มที่เกิดจาก น้ำยาเคลือบแก้ว ปกคลุมอยู่ คราบสนิมน้ำเช็ดล้างธรรมดาไม่ค่อยออก ดังนั้นการปล่อยให้เกิดรอยนี้เป็นการสร้างความยุ่งยากให้กับคนที่ต้องการให้รถมีความเงางามมากเลยทีเดียว ทำให้ความเสียหายจากแสงแดดรุนแรงยิ่งขึ้น น้ำค้างเมื่อจับเกาะที่ผิวรถ มันก็จะทำหน้าที่เหมือนเป็นเลนส์นูน เมื่อแสงแดดส่งลงมากระทบก็จะทำหน้าที่รวมความร้อนทำให้สีรถได้รับความเสียหายจากแสงแดดได้มากกว่าเดิม โดยปกติแสงแดดทำให้สีรถซีดและเสียหายง่ายอยู่แล้ว ยิ่งมาเสริมแรงด้วยน้ำค้าง ยิ่งเสียหายเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ฝุ่นผงสิ่งสกปรกเกาะติดสีรถได้แน่นและมากยิ่งขึ้น นี่เป็นปัญหาที่ทำให้รถของเราดูไม่สวยงาม … Continue reading ปัญหาน้ำค้างบนผิวรถ กับการเคลือบแก้ว

โคลนติดรถไม่ใช่เรื่องเล็ก ถ้ายังไม่ได้เคลือบแก้ว

เวลาที่เราใช้งานรถ ปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือ เรื่องของรอยคราบสกปรกที่จะเกิดขึ้นกับรถของเรา ตั้งแต่ยางล้อไปจนถึงหลังคา ตั้งแต่หน้ากระจังรถไปจนถึงปลายท่อส่วนท้าย ไม่ว่าส่วนไหนก็สามารถมีรอยเลอะเปรอะเปื้อนเกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น ซึ่งในบรรดารอยเปื้อน คราบโคลน ก็เป็นอีกรอยเปื้อนที่เกิดขึ้นได้เป็นประจำ และมันไม่ได้มีแค่ในช่วงฤดูฝนเท่านั้น ในฤดูอื่นๆ ก็เกิดขึ้นได้ เมื่อใดตามที่มีน้ำลงไปบนถนนและมีฝุ่นดินอยู่บนถนนนั้น ก็สามารถผสมรวมตัวกันเป็นโคลนได้เสมอ ดังนั้นมันจึงเป็นคราบเปื้อนที่ค่อนข้างธรรมดา แต่อย่าได้ประมาท อย่าคิดว่ามันแค่รอยเปื้อนโคลนธรรมดา ว่างแล้วค่อยล้างๆ เช็ดๆ เมื่อไหร่ก็ได้... เพราะมันเป็นรอยเปื้อนที่แฝงปัญหามากับความธรรมดาสามัญอย่างน่ากังวลเลยทีเดียว โดยเฉพาะในรถที่ยังไม่ได้ผ่านการทำ เคลือบแก้ว มาก่อน ยิ่งต้องระวังให้มาก   ปัญหาที่เกิดจากโคลนเกาะติดในรถที่ยังไม่ได้เคลือบแก้ว เราลองมาดูปัญหาที่เกิดขึ้นจากการที่รถของเรามีโคลนจับเกาะ ว่ามันมีผลเสียหายหรือส่งผลก่อให้เกิดปัญหาอย่างไรบ้าง ซึ่งในกรณีนี้จะขอกล่าวถึงในกรณีรถที่ยังไม่ได้ผ่านการทำ เคลือบแก้ว เสียก่อน ซึ่งก็คือ... 1. เกิดรอยคราบสกปรกที่ไม่น่ามอง แน่นอนว่าโคลนที่เลอะขึ้นมาเกาะติดกับสีรถ ตัวถังรถ หรือส่วนต่างๆ ทำให้รถดูสกปรกไม่น่ามอง ยิ่งเลอะมากก็ยิ่งน่าเกลียด ถ้าหากว่าเลอะไปถึงกระจกรถก็จะส่งผลต่อทัศนะวิสัยในการขับขี่ ซึ่งก็เสี่ยงกับการเกิดอุบัติเหตุได้เลยทีเดียว 2. เกิดรอยคราบฝังแน่นที่เช็ดล้างไม่ออก กรณีนี้เกิดขึ้นจากการที่เราปล่อยให้คราบโคลนติดอยู่ที่รถเป็นเวลานาน โดยไม่รีบทำความสะอาดออกไป เพราะบางท่านคิดว่าแค่คราบโคลนเอาน้ำล้างก็น่าจะออก แต่ในความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะในส่วนประกอบของโคลนมีแร่ธาตุหลายชนิด บางชนิดเมื่อทิ้งไว้สักพักทำความสะอาดด้วยน้ำหรือการเช็ดล้างธรรมดาไม่ได้ เช่น แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium carbonate : … Continue reading โคลนติดรถไม่ใช่เรื่องเล็ก ถ้ายังไม่ได้เคลือบแก้ว