เวลาที่เราใช้งานรถ ปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือ เรื่องของรอยคราบสกปรกที่จะเกิดขึ้นกับรถของเรา ตั้งแต่ยางล้อไปจนถึงหลังคา ตั้งแต่หน้ากระจังรถไปจนถึงปลายท่อส่วนท้าย ไม่ว่าส่วนไหนก็สามารถมีรอยเลอะเปรอะเปื้อนเกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น ซึ่งในบรรดารอยเปื้อน คราบโคลน ก็เป็นอีกรอยเปื้อนที่เกิดขึ้นได้เป็นประจำ และมันไม่ได้มีแค่ในช่วงฤดูฝนเท่านั้น ในฤดูอื่นๆ ก็เกิดขึ้นได้ เมื่อใดตามที่มีน้ำลงไปบนถนนและมีฝุ่นดินอยู่บนถนนนั้น ก็สามารถผสมรวมตัวกันเป็นโคลนได้เสมอ ดังนั้นมันจึงเป็นคราบเปื้อนที่ค่อนข้างธรรมดา แต่อย่าได้ประมาท อย่าคิดว่ามันแค่รอยเปื้อนโคลนธรรมดา ว่างแล้วค่อยล้างๆ เช็ดๆ เมื่อไหร่ก็ได้... เพราะมันเป็นรอยเปื้อนที่แฝงปัญหามากับความธรรมดาสามัญอย่างน่ากังวลเลยทีเดียว โดยเฉพาะในรถที่ยังไม่ได้ผ่านการทำ เคลือบแก้ว มาก่อน ยิ่งต้องระวังให้มาก ปัญหาที่เกิดจากโคลนเกาะติดในรถที่ยังไม่ได้เคลือบแก้ว เราลองมาดูปัญหาที่เกิดขึ้นจากการที่รถของเรามีโคลนจับเกาะ ว่ามันมีผลเสียหายหรือส่งผลก่อให้เกิดปัญหาอย่างไรบ้าง ซึ่งในกรณีนี้จะขอกล่าวถึงในกรณีรถที่ยังไม่ได้ผ่านการทำ เคลือบแก้ว เสียก่อน ซึ่งก็คือ... 1. เกิดรอยคราบสกปรกที่ไม่น่ามอง แน่นอนว่าโคลนที่เลอะขึ้นมาเกาะติดกับสีรถ ตัวถังรถ หรือส่วนต่างๆ ทำให้รถดูสกปรกไม่น่ามอง ยิ่งเลอะมากก็ยิ่งน่าเกลียด ถ้าหากว่าเลอะไปถึงกระจกรถก็จะส่งผลต่อทัศนะวิสัยในการขับขี่ ซึ่งก็เสี่ยงกับการเกิดอุบัติเหตุได้เลยทีเดียว 2. เกิดรอยคราบฝังแน่นที่เช็ดล้างไม่ออก กรณีนี้เกิดขึ้นจากการที่เราปล่อยให้คราบโคลนติดอยู่ที่รถเป็นเวลานาน โดยไม่รีบทำความสะอาดออกไป เพราะบางท่านคิดว่าแค่คราบโคลนเอาน้ำล้างก็น่าจะออก แต่ในความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะในส่วนประกอบของโคลนมีแร่ธาตุหลายชนิด บางชนิดเมื่อทิ้งไว้สักพักทำความสะอาดด้วยน้ำหรือการเช็ดล้างธรรมดาไม่ได้ เช่น แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium carbonate : … Continue reading โคลนติดรถไม่ใช่เรื่องเล็ก ถ้ายังไม่ได้เคลือบแก้ว
โคลนติดรถไม่ใช่เรื่องเล็ก ถ้ายังไม่ได้เคลือบแก้ว
