เคลือบแก้วอยู่ได้นานเท่าไหร่

เคลือบแก้ว อยู่ได้นานเท่าไหร่…”  นี่เป็นหนึ่งในคำถามที่พบบ่อย และออกแนว คำถามโลกแตก ที่ผู้สนใจการทำ เคลือบแก้วรถ น่าจะสงสัยเป็นลำดับต้นๆ เพราะการที่เราจะต้องควักเงินหลักหมื่นในการเข้ารับบริการเคลือบแก้ว หรือเคลือบเซรามิค นั้น ก็เป็นเรื่องที่ต้องคิดต้องพิจารณาก่อน ว่าสิ่งที่ศูนย์บริการหลายๆ แห่งเขาโฆษณานั้น จะสามารถปกป้องสีรถคันโปรดของเราได้นานเท่าไหร่กันในความเป็นจริง มันคุ้มค่ากับที่เราจะลงทุนหรือไม่ อย่างไร และ…ทำไมการโฆษณาประสิทธิภาพในการปกป้องสีรถของ น้ำยาเคลือบแก้ว แต่ละแห่งนั้น จึงมีความแตกต่างกันไป ซึ่งก็มีตั้งแต่ 1 ปี 3 ปี 5 ปี 7 ปี หรือ… ขนาดที่บอกว่าติดทนถาวรตลอดอายุการใช้งานกันไปเลยก็มี… เรื่องพวกนี้เป็นจริงแค่ไหน และ เคลือบแก้วอยู่ได้นานเท่าไหร่ กันแน่…

เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจน ผู้เขียนมีสมมุติฐาน 2 ประเด็น เอามาให้พิจารณาเปรียบเทียบ เพื่อให้ผู้ที่สนใจการทำ เคลือบแก้ว ได้นำมาเป็นแนวทางในการพิจารณา ดังนี้…

ประเด็นแรก เปรียบเทียบการใช้งานรถ

เราลองเปรียบเทียบกันดูว่าในกรณีรถที่ทำ เคลือบแก้วแท้ แบบเดียวกัน และสีก็เป็นประเภทเดียวกัน ทีนี้คันหนึ่งทำเสร็จแล้ว นำเอาไปจอดโรงเก็บรถเอาไว้ภายในห้องกระจก ทิ้งไว้เฉยๆ สัก 3 ปี หรือ 5 ปี ก็แล้วแต่ กับอีกคันหนึ่ง ซึ่งถูกนำไปใช้งานตามปกติ จอดตากแดด ตากลม ตากฝนทุกๆ วัน ล้างน้อย หรือ ไม่ล้างเลย… ลองจินตนาการแล้วตั้งคำถาม ดูว่า อายุการใช้งานของ น้ำยาเคลือบแก้ว ทั้งสองคันดังกล่าวนั้น มันน่าจะต่างกันหรือไม่ ? อย่างไร ? แต่อย่าพึ่งตอบหรือสรุปในตอนนี้ ขอให้ท่านค้างคำตอบนี้เอาไว้ก่อน แล้วมาลองตั้งคำถามในประเด็นต่อไปก่อนแล้วเราค่อยนำมาประมวลทีเดียว เพื่อให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจน

ประเด็นที่สอง เคลือบแก้ว ที่เราทำมายังติดอยู่ที่สีรถเราหรือไม่ จะรู้ได้อย่างไร

เชื่อว่ามีอีกคำถามสำคัญที่มีผู้สงสัย เกี่ยวกับเรื่องที่เขาโฆษณาว่าทำ เคลือบแก้ว แล้วมันสามารถติดทนนานหลายๆ ปี นั้น เราจะรู้ได้อย่างไรว่า เคลือบแก้วรถยนต์ ของเรายังอยู่หรือไม่อยู่…  ซึ่งตัวผู้เขียนเองเชื่อว่า ในความเข้าใจของท่านผู้ใช้บริการ เคลือบแก้ว นั้นจะหาคำตอบในเรื่องที่ว่า เคลือบแก้วที่ทำไปยังอยู่บนรถเราดีหรือไม่ จากการสังเกตด้วยตาในเรื่องที่ว่า…

  1. รถยังเงาดีอยู่ แน่นอนว่า การที่เราเข้ารับบริการ เคลือบแก้ว จุดประสงค์หลักส่วนหนึ่งก็คือ ต้องการความเงางามของสีรถที่ยาวนาน ดังนั้น เมื่อยังเห็นรถยังมีความเงาอยู่ ย่อมรู้สึกว่าเคลือบแก้วที่อยู่บนชั้นสีนั้นก็น่าจะยังอยู่เช่นกัน
  2. ระบบการรักษาความสะอาดด้วยตัวเองยังอยู่ สำหรับคนที่ช่างสังเกต อาจจะเห็นถึง Effect หรือ ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นของสีรถตัวเอง ว่ายังมีระบบการรักษาความสะอาดด้วยตัวเอง (Self-Cleaning effect) อยู่หรือไม่ (ปฏิกิริยาการรักษาความสะอาดด้วยตัวเอง เช่น ระบบการไล่น้ำ ที่ทำให้ น้ำไม่เกาะ มีความลื่น การลดแรงเสียดทาน หรือเมื่อเห็นมลภาวะ เช่น มูลนก หรือ คราบสกปรกต่างๆ มาติดรถแล้ว สามารถทำความสะอาด หรือเช็ดออกได้โดยง่าย) มันยังคงประสิทธิภาพอยู่เหมือนเดิมกับวันแรกๆ ที่ทำเคลือบแก้วออกมาหรือเปล่า… ซึ่งเรื่องนี้ผู้ที่นิยมล้างรถด้วยตนเอง มักจะสังเกตได้ชัดเจนมากกว่า

ทีนี้เมื่อนำเอาสมมุติฐานทั้งสองประเด็นมารวมกันแล้ว ผู้เขียนจะขออธิบายข้อมูลทางเทคนิคเสริม เพื่อให้ผู้ที่สนใจการ เคลือบแก้ว หรือ ท่านที่เคย รับบริการเคลือบแก้ว ไปแล้ว ได้นำเอาไปพิจารณา เพื่อใช้ในการดูแลรักษาสีรถให้มีประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น ดังนี้

น้ำยาเคลือบแก้ว หรือเซรามิคแท้ เมื่อนำมาลงบนพื้นผิวรถแล้ว จะติดอยู่บนชั้นสีของรถถาวร หากไม่มีการนำไปขัดหนักๆ เช่น กระดาษทราย หรือขัดแบบลักษณะหยาบหนักๆ หรือขัดต่อเนื่องหลายครั้ง ทั้งนี้ ความเงางาม หรือระบบการรักษาความสะอาดด้วยตัวเองของการเคลือบแก้วนั้นขึ้นอยู่กับการใช้งาน และการดูแลรักษาด้วย รถที่ถูกมลภาวะเล่นงานแบบเดียวกัน คันหนึ่งล้างออกทำความสะอาดทันที กับอีกคันหนึ่งสะสมมลภาวะหรือคราบสกปรกนั้นไว้นานไม่ได้ทำความสะอาดออก คันที่ล้างออกทันที ย่อมทำได้โดยง่าย และประสิทธิภาพของการ เคลือบแก้ว ย่อมแสดงผลได้ดีกว่า ดังนั้น การใช้งานที่แตกต่างกัน ย่อมมีผลต่อต่อความเงางาม และประสิทธิภาพในการรักษาความสะอาดด้วยตัวเองหรือยกตัวอย่างอีกสักกรณี เช่น รถคันหนึ่งจอดตากแดด หรือ จอดกลางแจ้งประจำ ใช้งานไปต่างจังหวัดบ่อย แต่อีกคันใช้งานในเมือง จอดในที่จอดที่มีหลังคากำบังเป็นหลัก คันหลังย่อมยังคงมีประสิทธิภาพและความเงางามยาวนานกว่าคันแรก ซึ่งแม้ว่าชั้นฟิล์มแก้วยังอยู่บนสีรถ แต่ความเงางามและประสิทธิภาพการรักษาความสะอาดด้วยตัวเองจะดรอปลง เนื่องจากถูกมลภาวะบดบังบนชั้นฟิล์มแก้วนั่นเอง…

สรุปก็คือ… ในเรื่องอายุการใช้งานว่า เคลือบแก้วอยู่ได้นานเท่าไหร่ นั้น คำตอบจึงอยู่ที่เรื่องสภาพการใช้งานและการดูแลรักษาเป็นหลัก รถแต่ละคันจึงมีอายุการปกป้องดูแลไม่เท่ากัน และเป็นเรื่องจริงที่ว่าเมื่อทำ เคลือบแก้ว แล้วอยู่ได้นาน แต่มันจะต้องมีการบำรุงรักษาและลงน้ำยาเพิ่มเติมตามอายุและการใช้งานที่ผ่านไปด้วย เพื่อให้ประสิทธิภาพยังคงอยู่และใช้งานได้ดีอยู่เสมอ และนี่คือ คำตอบของอายุการใช้งานว่ายาวนานได้แค่ไหน และเชื่อว่ายังเป็นคำตอบให้กับหลายๆ ท่านที่มีความสงสัยว่า เมื่อทำเคลือบแก้วรถยนต์ไปแล้ว ทำไมยังต้องบำรุงรักษา ทั้งที่โฆษณาว่าติดทนได้นานหลายๆ ปี เมื่อรู้ข้อมูลดังนี้แล้ว ผู้ที่สนใจทำ เคลือบแก้ว จะคงจะได้เข้าใจความหมายว่า เคลือบแก้วไปแล้วจะอยู่ได้นานเท่าไหร่ และเพิ่มเติมถึงเรื่องการบำรุงรักษาเคลือบแก้วนั้นมีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด ทำไมโฆษณาว่าติดทนนานหลายปีแล้วยังต้องไปบำรุงรักษา และแต่ละที่บำรุงรักษาอย่างไร รับประกันอย่างไร ก็จะเป็นส่วนประกอบสำคัญในการพิจารณาก่อนการตัดสินใจเข้ารับบริการด้วยเช่นเดียวกัน…

Leave a Reply