มลพิษ เป็นเรื่องที่ใครได้ยินได้ฟังแล้วก็คงมีความรู้สึกไม่ดี เพราะมันเป็นเรื่องที่อันตรายต่อสุขภาพของคนเรา แต่ก็เป็นเรื่องจริงอีกนั่นแหละว่าเกือบ 100% ปัญหามลพิษเกิดจากคนเราเองอีกเช่นกัน และคนที่รู้สึกไม่ดีเองบางทีก็มีส่วนในการสร้างมลภาวะที่เป็นพิษหรือมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อมและทำร้ายตัวเองด้วย แต่นอกเหนือจากมลพิษจะก่อปัญหาให้กับสุขภาพแล้ว แม้แต่สีรถเองก็ถูกมลพิษเล่นงานเอาได้ ซึ่งหากไม่อยากให้โดนมลภาวะเหล่านี้เล่นก็ต้องหาทางป้องกัน ซึ่งหนึ่งในรถที่ไม่ค่อยมีปัญหาหรือได้รับผลกระทบมากนักก็คือ รถยนต์เคลือบแก้ว เพราะการทำ เคลือบแก้ว สามารถปกป้องผิวสีของรถจากมลภาวะได้ด้วยชั้นฟิล์มใสที่เกิดจากการเคลือบ น้ำยาเคลือบแก้ว เอาไว้ แต่สำหรับรถที่ยังไม่ได้เคลือบ อยากทราบไหมว่ามีมลพิษอะไรในเมืองบ้างที่เล่นงานสีรถของเราและมันจะมีผลอย่างไร…
มลพิษในเมืองที่ส่งผลต่อรถที่ยังไม่ได้ทำเคลือบแก้ว ได้แก่…
เขม่าควัน
ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงจากการใช้งานรถของเราเอง และการเผาไหม้เชื้อเพลิงต่างๆ ตามอาคารบ้านเรือนและร้านที่อยู่ในเขตเมือง ซึ่งควันเหล่านี้มันมีเขม่า ที่เป็นอนุภาคของคาร์บอนขนาดเล็กและมีความเหนียวอยู่ และแน่นอนว่าในเขตเมืองที่มีการใช้รถและมีผู้คนอยู่หนาแน่นย่อมมีปริมาณเขม่าควันสูง เมื่อมันจับเกาะผิวรถ ทำให้เกิดคราบสกปรก สะสมหนาขึ้นเรื่อยๆ ลองไปดูที่ท่อไอเสียของรถที่ใช้งานมานานๆ จะเห็นได้ว่ามันมีเขม่าสีดำที่เหนียวหนึบจับเกาะ เจ้าสิ่งนี้แหละที่ออกมาปะปนในอากาศ เวลาที่เราใช้รถขับขี่ไปบนถนน ทั้งไอเสียของรถเราและของรถคนอื่นที่ลอยคลุ้งอยู่ก็จะมาจับเกาะสีรถทำให้ไม่มีความสดใส ซึ่งหากเป็นรถที่ยังไม่ได้ เคลือบแก้ว มันจะเกาะได้แน่นมากกว่า รถยนต์เคลือบแก้ว ที่มีประสิทธิภาพด้านความลื่นปกป้องอยู่
ฝุ่นผง
ซึ่งเกิดขึ้นจากเศษดินเศษทรายบนท้องถนน หรืออาจจะมาจากบ้านเรือน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีการก่อสร้าง ซึ่งบางครั้งอาจจะมีผงปูนปะปนมาด้วย ในบริเวณที่มีการผสมหรือเทคอนกรีต หรือน้ำปูนที่หยดจากสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ สิ่งเหล่านี้ สร้างปัญหาเรื่องความสกปรกให้กับสีของรถได้แน่นอน ระดับทั่วไปก็คือรถเราสกปรกมีฝุ่นจับหนา ระดับหนักก็กลายเป็นคราบเกาะฝังแน่นกับผิวรถ เช็ดล้างทำความสะอาดได้ยาก เว้นแต่ถ้าเป็น รถยนต์เคลือบแก้ว จะดีหน่อยตรงที่ล้างทำความสะอาดได้ง่ายกว่า ถ้าเป็นระดับฝุ่นธรรมดาแค่ฉีดน้ำและเอาผ้าลูบเบาๆ ก็หลุดออก แต่ถึงเป็น รถยนต์เคลือบแก้ว ก็ยังต้องระวังในการเช็ดล้าง เพราะหากมีเศษทรายที่มีความแข็งก็ทำให้เกิดรอยขูดขีดได้เหมือนกัน แต่แน่นอนว่าดีกว่ารถทั่วไปที่ไม่ได้ เคลือบแก้ว มาแน่ แต่จะต้องล้างอย่างถูกวิธีด้วย
ฝนกรด
หลายท่านอาจจะเคยได้ยินคำนี้มาแล้ว ฝนกรดเกิดจากการที่การกลั่นตัวเป็นหยดน้ำในอากาศไปผสมเข้ากับมลพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ หรือการปะปนอยู่ในอากาศของละอองเคมี ซึ่งน้ำฝนที่เรียกได้ว่ามีสภาพเป็นกรด หรือเป็น ฝนกรด จะมีค่า pH ต่ำว่า 6 ซึ่งความน่ากลัวของมันก็คือ มันสามารถกัดกร่อนและทำละลายสร้างความเสียหายให้กับวัตถุต่างๆ ที่มันตกใส่ แม้จะไม่รุนแรงถึงขนาดเกิดรอยไหม้เหมือนกรดเข้มข้น แต่มันก็สามารถเล่นงานสีรถได้ และยังสามารถไปละลายเอาฝุ่นดินคราบเปื้อนให้ละลายฝังแน่นกับผิวสีของรถให้แน่นขึ้นได้อีกด้วย ทำให้เกิดรอยคราบขาวๆ ขุ่นๆ บนสีรถ ซึ่งล้างทำความสะอาดยาก เพราะมีสภาพเหมือนคราบของหินปูน กรณีที่เป็น รถยนต์เคลือบแก้ว ปัญหานี้พอจะเบาใจได้ เพราะชั้นฟิล์มปกป้องสีรถเอาไว้
นี่เป็นปัญหาเรื่องมลพิษบางส่วนที่มีผลต่อสีรถ ซึ่งยังมีอีกหลายอย่าง ซึ่งยากที่เราจะหลีกเลี่ยงได้ เพราะมันมีอยู่ทั่วไปในอากาศ และเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในเขตเมืองที่มีผู้คนและการใช้รถ การเผาเชื้อเพลิงในปริมาณมาก ดังนั้นหากต้องการหลีกเลี่ยงการทำ เคลือบแก้วรถยนต์ เอาไว้เป็นหนทางที่ช่วยเราได้เป็นอย่างดี รถยนต์เคลือบแก้ว สามารถต่อสู้กับมลพิษได้ ทำความสะอาดก็ง่ายกว่า แต่อย่างไรก็ดี แม้รถจะได้รับการปกป้องจากการ เคลือบแก้ว แล้ว เราก็ยังต้องระวังในเรื่องสุขภาพของเราที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษด้วยเช่นกัน…
Albatros ตัวจริงเรื่องการดูแลรถ ต้องการบริการ เคลือบแก้ว เคลือบแก้ว รัชดา เคลือบแก้ว ห้วยขวาง เดินทางมาได้ที่คาร์แคร์ของเรา หรือ หากต้องการบริการพิเศษในต่างพื้นที่ ต่างจังหวัด ติดต่อได้ เรายินดีให้คำปรึกษาและให้บริการ คลิกดูโปรโมชั่น หรือสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่
Line id: @albatros