โคลน เป็นหนึ่งในสิ่งสกปรกที่มีอยู่ตามถนนหนทางที่เวลาเราขับรถไปไหนต่อไหนต้องเจออยู่เสมอ และจะหนักมากในช่วงที่มีฝนตก แต่ต่อให้ไม่มีฝนตกเราก็มีความเสี่ยงที่จะเจอโคลนติดรถได้อยู่ดี เพราะมันอาจจะมาจากรถบรรทุกดิน ที่วิ่งไปมาแล้วทำดินตกเรี่ยราดบนถนน หรือ อาจจะเกิดจากการทำถนนใหม่ของกรมทางเองก็เป็นไปได้ และยังอาจเกิดจากกรณีท่อประปาแตก มีการปล่อยน้ำจากบ้านออกมาภายนอก ทำให้เกิดโคลนบนถนนและเกาะติดกับรถเรามาได้เหมือนกัน ด้วยความที่มันมีทั่วไปหมดและเจอได้ตลอด บางทีก็ทำให้เราเผลอไป คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา ที่รถจะต้องมีโคลนมาเปื้อนบ้าง แต่ในความเป็นจริง โคลน ที่เกาะติดสีรถ ไม่ใช่เรื่องธรรมดาๆ เลย โดยเฉพาะกับรถที่ยังไม่ได้ทำ เคลือบแก้ว ปกป้องไว้ เพราะมันสามารถส่งผลเสียหายต่อรถและสีรถได้ในระดับที่ทำให้เจ้าของรถกุมขมับ… แต่เราสามารถป้องกันปัญหาลดความเสียหายได้ด้วยการเคลือบให้เป็น รถเคลือบแก้ว เพราะ น้ำยาเคลือบแก้ว จะกลายเป็นชั้นฟิล์มที่สามารถปกป้องผิวสีของรถได้เป็นอย่างดี แต่หากว่ายังไม่ได้ทำ เคลือบแก้ว เอาไว้ หากมีโคลนต้องเร่งจัดการอย่าชะล่าใจว่ามันเป็นเรื่องเล็ก เพราะผลเสียหายมันอาจจะมากกว่าที่คุณคิด…
ปัญหาจากโคลนในรถที่ยังไม่ได้เคลือบแก้ว
หากว่าเราชะล่าใจเผลอทิ้งให้โคลนเกาะติดรถของเราเอาไว้นานๆ ในรถที่ยังไม่ได้ทำ เคลือบแก้ว สิ่งแรกเลยที่จะต้องเจอก็คือ ล้างออกยากมาก โคลนใหม่ๆ ถ้าติดเราอาจจะฉีดน้ำแรงๆ หรือใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดออกก็หลุด แต่หากทิ้งไว้นาน ล้างออกยากมาก ต่อให้ใช้ เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงมาฉีดล้างก็ไม่สามารถล้างออกได้หมด มันจะเหลือคราบติดที่สีรถ ทั้งนี้เนื่องจาก ดินโคลนที่ติดอยู่นั้น มีส่วนประกอบของ แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium carbonate : CaCO3) หรือ พูดง่ายๆ ก็คือ “หินปูน” นั่นเอง ซึ่งหินปูนนี้มันไม่ละลายน้ำ แถมยังจับเกาะได้แน่นกับผิวของวัสดุประเภทต่างๆ ล้างไม่ออกแน่นอน หากทิ้งไว้ไม่นาน อาจจะพอใช้มือหรือผ้าช่วยลูบออกได้ แต่นั่นก็เท่ากับเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดรอย จากเศษทรายเศษกรวดที่อยู่ในโคลน ทำให้เกิดความเสียหายกับผิวสีรถ แต่หากทิ้งไว้นาน จะกลายเป็นคราบฝ้าเหลืองๆ ทำความสะอาดยาก และทิ้งรอยคราบทำให้รถดูสกปรก และมันอาจจะจับเกาะเอาเม็ดทรายเล็กๆ เอาไว้ด้วย เวลาที่ขัดล้าง หากไม่ระวังให้ดี ก็เท่ากับเอากระดาษทรายลากไปมา คราวนี้รถของเราก็เกิดรอยขีดข่วนเต็มไปหมดได้เพราะความผิดพลาดนี้ ถ้าไม่ได้ เคลือบแก้วรถ เอาไว้เจอโคลนเมื่อไหร่ให้รีบล้างทันทีก่อนที่มันจะฝังแน่นที่ผิว… และยังต้องตรวจดูในส่วนล่างใต้ท้องรถและในส่วนที่เป็นซอกระหว่างชิ้นส่วน เพราะการปล่อยโคลนให้เหลือติดเอาไว้ไม่ทำความสะอาดให้หมด ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดสนิมกัดกินชิ้นส่วนที่เป็นเหล็กตามมาได้

แม้แต่รถเคลือบแก้ว ก็ต้องระวังเรื่องโคลน
แม้จะเป็นจริงว่า เมื่อเราทำการ เคลือบแก้ว เอาไว้ ผิวสีแท้ของรถจะได้รับการปกป้องจากชั้นฟิล์มที่มีความลื่นและแข็ง แต่ในการล้างก็อย่าชะล่าใจ เพราะในโคลนอาจมีเศษทรายเศษกรวดที่มีความแข็งพอๆ กับผิว เคลือบแก้ว (เนื่องจากเป็น ซิลิก้า เหมือนกัน) ทำให้เกิดรอยเสียหายได้เช่นกัน แม้จะไม่มากเท่ารถที่ไม่ผ่านการ เคลือบแก้ว มา แต่ก็มีรอยเสียหายเกิดขึ้นได้ วิธีล้าง รถเคลือบแก้ว ที่เปื้อนโคลนอย่างปลอดภัยก็คือ การใช้น้ำฉีดล้างก่อน อย่าพึ่งรีบเอาผ้าไปลูบตรงที่เปื้อน เพื่อให้โคลนและเศษทราบเศษกรวดหลุดออกไปเอง ซึ่งในรถที่ผ่านการ เคลือบแก้ว มามันง่ายมากที่สิ่งสกปรกเหล่านี้จะหลุดออก จากนั้นค่อยล้างตามปกติ เพียงเท่านี้ก็ใช้ได้แล้ว

เพราะฉะนั้นโคลนไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ แม้แต่สำหรับรถที่ผ่านการทำ เคลือบแก้ว มา เจอรอยแล้วให้รีบล้างให้สะอาด และทำให้แห้ง รถเคลือบแก้ว เองก็เช่นกัน ต้องตรวจดูในส่วนด้านล่าง หรือหลังล้อด้วย เพื่อป้องกันการเกิดสนิมในชิ้นส่วนที่ยังไม่ได้ทำการลง น้ำยาเคลือบแก้ว เอาไว้…
Albatros ตัวจริงเรื่องการดูแลรถ ต้องการบริการ เคลือบแก้ว เคลือบแก้ว รัชดา เคลือบแก้ว ห้วยขวาง เดินทางมาได้ที่คาร์แคร์ของเรา หรือ หากต้องการบริการพิเศษในต่างพื้นที่ ต่างจังหวัด ติดต่อได้ เรายินดีให้คำปรึกษาและให้บริการ คลิกดูโปรโมชั่น หรือสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่
Line id: @albatros